เช้าวันที่ 15 มิถุนายน 2564 ข่าวคราวที่นำความโศกเศร้าแก่คนกัมพูชาทั้งประเทศคือการจากไปของแม่ครูเอ็ม เทือย (Em Theay) (พ.ศ.2475-15มิถุนายน2564; อายุ 89 ปี) อดีตศิลปินหญิงจากราชสำนักกัมพูชา ที่เป็นเสาหลักสำคัญของการทำหน้าที่ครูต้นแบบนาฏศิลป์ดนตรีและเผยแพร่งามงดงามของวัฒนธรรมกัมพูชาต่อโลกกว้างมายาวนาน มีการแสดงความอาลัยรักออนไลน์จากผู้คนหลากหลายที่รู้จักและประทับใจเธอ รวมไปถึงสาส์นของผู้นำประเทศ ท่านฮุนเซ็น ที่เผยแพร่ผ่านสื่อในวันเดียวกันนั้น บอกเล่าความประทับใจในความสามารถ ความรักและการส่งต่อความรู้ในศิลปวัฒนธรรมกัมพูชากับคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้คือการนำเอาภาพยนตร์สารคดีภาพถ่ายและงานบันทึกบทเพลงที่เธอเคยขับร้องเอาไว้ในอดีตบางส่วนมาเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์กันมากมาย
แม่ครูเอ็ม เท็อย เกิดที่พนมเปญ เติบโตในพระราชวังหลวง ได้รับการถ่ายทอดความรู้นาฏศิลป์ราชสำนัก ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ผ่านประสบการณ์การแสดงนาฏศิลป์ในช่วงที่ราชอาณาจักรกัมพูชาเคยรุ่งเรืองและหลังจากสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ผ่านพ้น ได้อุทิศตนให้กับการทำหน้าที่ครูศิลปินนักแสดง ให้กับการพลิกฟื้นประเทศกัมพูชาอย่างเข้มแข็ง จนได้รับรางวัลสดุดี “เทวนาฏนฤมิตร” จากรัฐบาลกัมพูชาในปี พ.ศ.2555 และการยกย่องอีกมากมายจากองค์กรต่างๆ
บทเพลงในวันนี้เป็นเสียงประวัติศาสตร์ที่เธอเคยขับร้องเอาไว้หลังจากสิ้นสุดสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ณ ประเทศอังกฤษ, เสียงประวัติศาสตร์ที่บันทึกเพลงรำที่เธอเคยร่วมแสดง ณ พระราชวังพนมเปญก่อนยุค เขมรแดงที่กลายมาเป็นแผ่นเสียงในตำนานของยูเนสโก, เสียงร้องเพลงมโหรีของเธอในยามชราและเสียงของคนรุ่นใหม่ ลอร่า แมม (Laura Mam) และแรปเปอร์ดัง แวนดา (VanaDa) ร่วมกันขับขานบทเพลงเชิดชูผู้หญิงกัมพูชาที่สร้างแรงบันดาลใจในวันสตรีสากล พ.ศ.2564 ซึ่งแม่ครูเอ็ม เท็อย เป็นหนึ่งในเรื่องเล่าของบทเพลงนี้และร่วมแสดงในมิวสิควิดีโอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะถึงแก่กรรม