วันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ข่าวเศร้าที่คนรักศิลปวัฒนธรรมอินโดนีเซียรับรู้ร่วมกันคือ Ki Manteb Soeharsono (คี มันเตป โซดาร์โซโน) Dalang (ดาหลัง) หรือ “นักเชิดหนัง” คนสำคัญของวงการหนังเงา wayang kulit (วายัง กูลิต) จากโลกนี้ ไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยการติดเชื้อโควิด-19 ฉับพลัน สิริอายุ 73 ปี คีมันเตป โซดาร์โซโน มีสมญาในวงการแสดงว่า dalang setan (ดาหลัง เซตาน) หรือ sebatan (เซบาตาน) อัน หมายถึงผู้ที่ได้รับพรจากปีศาจ (ในความหมายด้านที่ดี) เกิดในครอบครัวดาหลังที่เขตชวากลาง เริ่มต้นหัดเชิดหนังมา
ตั้งแต่ยังเยาว์เรียนรู้วิชาการแสดงวายังกูลิตจากบรมครู Ki Narto Sabdo และท่านอื่นๆ ชนะเลิศการแข่งขันเชิดหนัง ที่สุรการ์ต้าเมื่อปี 1972 แล้วได้รับการสนับสนุนจากซูการ์โน ปราวิโยโก ให้จัดการแสดงที่ถือเป็นประวัติศาสตร์ให้คน จดจำคือ banjaran bima จากมหาภารตะเต็มเรื่องติดต่อกันนานเป็นเดือน รวมทั้งเคยทำสถิติเล่นหนังเงาติดต่อกันข้ามคืนข้ามวันโดยไม่หยุดพัก ได้รับการยกย่องว่าเป็นคนที่เชิดหนังที่มีความสามารถบังคับควบคุมตัวหนังเคลื่อนไหวอย่างแพรวพราวโดยเฉพาะฉากการสู้รบ มีความทรงจำที่ดีมากทั้งบทในการแสดง ชื่อตัวละคร บทเพลงโบราณและ เพลงที่แต่งใหม่มีความรู้เรื่องดนตรีดีมาก รวมทั้งมีปฏิภาณไหวพริบและความสามารถในการประยุกต์การแสดงเข้ากับวิทยาการใหม่ๆ
ในช่วงไวรัสระบาดที่ผ่านมา เขาใช้การแสดงวายังกูลิตเป็นส่วนหนึ่งในการเยียวยาสังคมด้วยการสตรีม มิ่งผ่านโซเชียลมีเดียอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งรับเชื้อโควิดเข้าไปและถึงแก่กรรมไม่นานจากที่ล้มป่วย บทเพลงรำลึกในครั้งนี้มีทั้งเพลงที่ Ki Manteb Soeharsono ได้ประพันธ์ขึ้นมาเอง และศิษย์ที่ได้สร้างบทไว้อาลัยท่านหลัง จากทราบข่าวความตาย มีเสียงจากเวทีการแสดงสดวายังกูลิต และเสียงที่ท่านบันทึกกับธุรกิจเทปเพลงในลักษณะ เพลงสมัยนิยม