รายการครั้งนี้ ยังคงทำหน้าที่บันทึกประวัติศาสตร์เพลงดนตรีภาคประชาชนเมียนมาที่นับเนื่องมา ตั้งแต่เหตุการณ์ยึดอำนาจการปกครองของเผด็จการทหารในช่วงต้นกุมภาพันธ์ 2564 การเปล่งเสียงเรียกร้อง ความถูกต้อง ความยุติธรรมในช่วงที่ผ่านมา ต้องแลกกับความเจ็บปวด ความตาย ความสูญเสียที่ไม่อาจประมาณได้ ดังที่เห็นอยู่ในข่าวโซเชียลมีเดียทุกเมื่อเชื่อวัน หากแต่เพลงดนตรีก็ยังไม่เคยยั้งหยุดหน้าที่แห่งศิลปะที่ให้ความหวัง เป็นสิ่งเยียวยาหัวใจของผู้คนเมียนมา เป็นสาส์นแห่งอารมณ์ความรู้สึกแห่งจิตใจที่เขาส่งไปให้โลกภายนอกได้รับรู้ด้วย และในทางกลับกัน ก็ยังมีเพลงของเพื่อนร่วมโลกที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่ออุทิศให้กับสถานการณ์เลวร้ายในเมียนมาร์และความหวังที่จะเห็นชีวิตคนเมียนมาร์กลับคืนมาสู่ความสุขสงบอีกครั้ง
ยอดจำนวนผู้บาดเจ็บล้มตายทบทวีขึ้น ความสูญเสียซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่รังแต่จะเพิ่มความรุนแรงขึ้นทุกขณะ เสียงเพลงที่เคยเกรี้ยวกราดโกรธเคือง เสียงที่เคยประกาศกล้าท้าทาย ค่อยๆแปรเปลี่ยนไปเป็นเสียงของ ความขมขื่น ความเศร้า ความปวดร้าวที่สัมผัสได้ในตัวโน้ตและเสียงขับขาน แม้จะฟังภาษาเมียนมาร์ไม่เข้าใจเลยก็ตาม แต่ดนตรีก็ทำหน้าที่สื่อสารความเศร้าให้เราตระหนักได้แต่ในความเศร้านั้น มิใช่ความสิ้นหวัง ยังมีพลังการต่อสู้ที่ระอุอยู่ข้างในของผู้คนที่ใฝ่หาเสรีภาพเสมอ