เช้าวันนี้อากาศแจ่มใส เหมาะอย่างยิ่งนักกับการเดินทางท่องเที่ยว เจนนี่พี่สาวคนโตของบ้านจึงชักชวน เดมี่ น้องคนกลาง และแมคน้องคนสุดท้าย ไปเที่ยวสวนสัตว์ใกล้บ้าน ไม่นานพี่น้องทั้งสามก็มาถึงประตูทางเข้าด้านหน้าสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เป็นพื้นที่ป่าแห่งเดียวของจังหวัดชลบุรี ซึ่งมีทั้งสัตว์ของไทยและของต่างประเทศกว่า 300 ชนิด อย่างเช่น ช้าง กระทิง วัวแดง ฮิปโปโปเตมัส ชะนี ค่าง ลิงลม ม้าลาย ยีราฟ นกกระจอกเทศ และไฮยีน่า เป็นต้น นักท่องเที่ยวเดินชมได้อย่างใกล้ชิด การเข้ามาในพื้นที่เปิดแบบนี้ควรปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด ดังนี้
ข้อ 1. ควรให้ความเมตตาแก่สัตว์ ไม่แกล้งสัตว์ ไม่ทำให้สัตว์ตกใจ
ข้อ 2. ไม่ควรให้อาหารสัตว์ ยกเว้นอาหารที่ทางสวนสัตว์จัดไว้จำหน่ายเพื่อให้สัตว์ชนิดนั้น
ข้อ 3. ไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในสวนสัตว์ เพราะสัตว์แต่ละตัวอาจไม่ได้เป็นมิตรกันเสมอไป
ข้อ 4. ไม่ควรนำเครื่องเล่นที่มีเสียงไปทำให้เกิดเสียงดังภายในสวนสัตว์
ข้อ 5. ต้องช่วยกันรักษาความสะอาด
ข้อ 6. ต้องเข้าใจสัตว์ บางตัวใจดี บางตัวอาจขี้หงุดหงิดก็ได้
หลังจากนั้นทั้งสามพี่น้องก็เดินเล่นเยี่ยมเพื่อนสัตว์กันอย่างสนุกสนาน พี่เจนนี่ไม่ลืมบอกน้อง ๆ ว่าให้ชวนเพื่อน ๆ มาเที่ยวสวนสัตว์กัน เพราะรายได้จากการขายบัตรเข้าชมจะนำไปซื้ออาหารเลี้ยงสัตว์ในสวนสัตว์ และที่สำคัญสมาชิกในสวนสัตว์จะได้ไม่เหงาและมีความสุข
จากนิทานกล่าวถึง พี่น้องทั้งสามมาถึงประตูทางเข้าด้านหน้าสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี ซึ่งประเทศไทยของเรามีสวนสัตว์อีกหลายแห่งที่อาจจะไม่เคยเข้าชม โดยนิทานเรื่องนี้จะพาทุกคนได้รู้จักกับสวนสัตว์ทั้งที่เป็นของราชการและเอกชนที่น่าเที่ยว หลายแห่งด้วยกัน ดังนี้
1. ซาฟารีเวิลด์ (Safari World) ตั้งอยู่ที่ 99 ถนนปัญญาอินทรา เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ เป็นสวนสัตว์เปิดมาตรฐานโลกแห่งเดียวในเมืองไทยที่มีเหล่าสัตว์นานาชนิดมากถึง 2,000 ตัว บรรยากาศแบบซาฟารีสามารถไปสัมผัสชีวิตสัตว์โลกอย่างใกล้ชิดเป็นธรรมชาติที่สุด
2. สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์ ตั้งอยู่ที่ 99 ถนนลาดหญ้า-บ่อพลอย ตำบลหนองกุ่ม อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี เป็นสวนสัตว์เปิดแห่งแรกในกาญจนบุรี แบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนสวนสัตว์เปิด และโซนการแสดงโชว์ โดยจุดเด่นคือ การป้อนอาหารเหล่ายีราฟ ม้าลายอย่างใกล้ชิดนั่นเอง
3. สวนสัตว์นครราชสีมา หรือสวนสัตว์โคราช ตั้งอยู่ที่ 111 หมู่ 1 ถนนราชสีมา-ปักธงชัย ตำบลไชยมงคล อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เป็นสวนสัตว์แบบซาฟารี มีสัตว์นานาชนิดกว่า 1,800 ตัว บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และทุ่งหญ้าสะวันนา และสัตว์จากแอฟริกา นอกจากนี้สามารถเข้าชมสัตว์ในเวลากลางคืนได้ทุกวันศุกร์และวันเสาร์
4. สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ตั้งอยู่ที่ 235 หมู่ 7 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีสัตว์นานาชนิด 300 ชนิด จุดเด่นคือ “การแสดงพาเหรดเพนกวิน” ที่มีให้ชมวันธรรมดา 2 รอบและวันหยุด 3 รอบ
5. สวนสัตว์เชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่ 100 ถนนห้วยแก้ว ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่กว่า 531 ไร่ ในบรรยากาศร่มรื่น นอกจากจะได้ชมความน่ารักของหมีแพนด้าแล้ว ที่นี่ยังมีอควาเรียมชมสัตว์น้ำ รวมถึงปลากว่า 250 สายพันธุ์ เพลิดเพลินกับความงามใต้ท้องทะเล และที่สำคัญที่นี่ยังเป็นสวนสัตว์กลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
6. สวนสัตว์ขอนแก่น ตั้งอยู่ที่ 88 หมู่ที่ 8 ตำบลคำม่วง อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น เป็นสวนสัตว์ที่เสริมสร้างความรู้และความเพลิดเพลิน มีสัตว์มากกว่า 100 ชนิด ทั้งสัตว์ป่าหายากและสัตว์ป่าที่มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศ นักท่องเที่ยวจะพบกับเหล่ากวางรวมตัวได้ง่ายๆ
7. สวนสัตว์อุบลราชธานี ตั้งอยู่ที่ 112 หมู่ 17 ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี มีพื้นที่กว่า 1,217 ไร่ ภายในสวนสัตว์เป็นลักษณะเป็นป่าโปร่ง เต็มไปด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ มีการจัดแสดงสัตว์ในรูปแบบ Jungle Park ให้สัตว์ได้อยู่กับป่าไม้ ถูกเลี้ยงในพื้นที่อย่างเป็นอิสระ และให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมเที่ยวชมอย่างใกล้ชิด
8. สิงห์ปาร์ค เชียงราย (Singha Park Chiang Rai) ตั้งอยู่ที่ 99 หมู่ 1 บ้านแม่กรณ์ ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย สิงห์ปาร์คเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีพื้นที่กว่า 8,000 ไร่ ที่นี่มีสวนสัตว์ Mini Zoo จุดชมชีวิตสัตว์ในไร่สิงห์ปาร์คที่เลี้ยงสัตว์ไว้หลายชนิด ทั้งยีราฟ ม้าลาย วัววาตูซี่ นกแก้วซันคอร์นัวร์ ให้สัมผัสกับชีวิตสัตว์น่ารักอย่างใกล้ชิด
สวนสัตว์ในประเทศไทยยังมีอีกมากมายหลายแห่ง และสามารถเข้าชมสัตว์ต่าง ๆ ได้จากสวนสัตว์ใกล้บ้านของท่าน
ฟังรายการได้ทาง
