ในปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวโมเดล GPT-4o หรือ Deepseek ซึ่งเป็นโมเดล AI จากจีนที่เข้ามาเขย่าวงการ AI ระดับโลก การเติบโตนี้ไม่ได้เกิดจากเพียงแค่การเพิ่มขีดความสามารถของคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่มีมากขึ้น หรือโมเดลที่ฉลาดขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีการจัดการทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพอยู่เบื้องหลัง โดยบทความนี้จะพาไปสำรวจปัจจัยสำคัญที่ทำให้ AI ก้าวหน้าเร็วยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา
ความก้าวหน้าของ AI ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในหลายด้าน ทั้งการปรับปรุงฮาร์ดแวร์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น การบริหารจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาลสำหรับการฝึก AI การพัฒนาอัลกอริธึมที่ซับซ้อนขึ้น และที่สำคัญคือการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ คาดว่ามีการลงทุนด้าน AI รวมกันมากกว่า 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยการที่ตลาดให้ความสนใจกับ AI มากขึ้นจึงเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เทคโนโลยีนี้พัฒนาเร็วกว่าในอดีต
เมื่อการลงทุนใน AI เพิ่มขึ้น ผู้ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา AI ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย นำไปสู่การวิจัยที่ก้าวหน้าขึ้น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แม้ว่างานวิจัยบางอย่างอาจดูไม่สำคัญกับการพัฒนา เช่น การพัฒนาระบบตัดคำในภาษาไทย หรือการจัดการข้อมูลรูปภาพ แต่สิ่งเหล่านี้กลับเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยต่อยอดให้ AI ฉลาดขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ภาพแผนภูมิแสดงจำนวนของงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารวิชาการที่มีหัวข้อเกี่ยวกับ AI
การบริหารจัดการข้อมูลที่ AI ใช้เรียนรู้มีความสำคัญอย่างยิ่ง AI สามารถเรียนรู้จากข้อมูลใหม่ ๆ ได้ก็ต่อเมื่อข้อมูลเหล่านั้นถูกกำกับและติดป้ายกำกับ (label) โดยมนุษย์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้เวลาและทรัพยากรมหาศาล นักวิจัยจึงพัฒนาแนวทางที่เรียกว่า Self-Supervised Learning ซึ่งช่วยให้ AI สามารถเรียนรู้และสร้างป้ายกำกับข้อมูลด้วยตัวเอง ลดภาระในการเตรียมข้อมูลล่วงหน้า (pre-processing) ลงได้อย่างมาก
การใช้ Self-Supervised Learning ช่วยให้ AI สามารถเรียนรู้ได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากสามารถใช้ข้อมูลดิบจำนวนมหาศาลโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการกำกับข้อมูลแบบเดิม หลายองค์กร เช่น OpenAI และ Meta ได้นำแนวทางนี้มาใช้กับโมเดลของตนเอง เช่น GPT และ LLaMA เพื่อเร่งการพัฒนา AI
สุดท้ายนี้ ความก้าวหน้าของ AI ในปัจจุบันไม่ได้เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีใหม่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นผลจากองค์ความรู้ที่ถูกพัฒนามาเป็นเวลาหลายทศวรรษ รวมถึงการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ขับเคลื่อน AI ให้ก้าวกระโดดอย่างแท้จริงคือเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้ในปริมาณมหาศาล ทำให้ AI สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม ๆ และเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนของมนุษยชาติ ตั้งแต่การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปจนถึงการปฏิวัติวงการสาธารณสุข
ฟังรายการได้ทาง
